เรื่องย่อ Fahrenheit 451 (2018) ซับไทย จะเกิดอะไรขึ้นหากโลกนี้ไม่มีหนังสือ ? และหนังสือทำหน้าที่อะไรมากกว่าเพื่อความบันเทิงยามว่างและให้ความรู้หรือไม่ ? และภายใต้ความรู้ของหนังสือเหล่านั้นมีสิ่งใดอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ? ในนวนิยายเรื่อง Fahrenheit 451 เขียนโดย Ray Bradbury นักเขียนชาวอเมริกันจะจำลองสังคมที่ไร้ซึ่งหนังสือให้เราได้เห็น เรื่องนี้เป็นนวนิยายแนวดิสโทเปีย เล่าถึงสังคมที่รัฐขึ้นมามีอำนาจควบคุมสื่อทั้งหมด ประชาชนถูกจำกัดในการรับรู้ข้อมูลและความรู้ต่าง ๆ ซึ่งจะรับรู้ข้อมูลได้เพียงทางโทรทัศน์ที่ทุกรายการจะต้องถูกตรวจสอบ กลั่นกรองโดยรัฐก่อนที่จะเผยแพร่สู่ประชาชน หนังสือกลายเป็นสิ่งต้องห้ามซึ่งผู้ที่ครอบครองหนังสือถือว่ากระทำผิดกฎหมายโดยทันที Fahrenheit 451 ถูกบรรยายโดยบุคคลที่สาม (Third-person point of view หรือ Limited Omniscient) และดำเนินเรื่องโดย กาย หรือ กีย์ มอนทาก (Guy Montag) ที่ประกอบอาชีพเป็น “นักผจญเพลิง” (Fireman) ผู้มีหน้าที่เผาทำลายหนังสือ ซึ่งต่างจากนักดับเพลิง (Fireman) ซึ่งมีหน้าที่ดับไฟตามความเข้าใจโดยทั่วไปของเรา เขาเคยรักในงานของเขามาตลอดและปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่ห้ามครอบครองหนังสือ และเชื่อว่าหนังสือคือสิ่งเลวร้าย (อาจเทียบได้กับยาเสพติดในสังคมของเรา) จนกระทั่งเขาได้พบกับคลารีส แมคเคลแลน (Clarisse McClellan) เด็กสาวเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ วัยสิบเจ็ดปี ผู้ลักลอบครอบครองและหลงรักในหนังสือ คลารีสได้จุดประกายแก่นักจุดไฟอย่างเขาด้วยบทสนทนาทำความรู้จักกันสั้น ๆ และทิ้งท้ายคำถามแก่เขาก่อนแยกย้ายกลับบ้านของตนว่า “คุณมีความสุขไหมคะ ?” ซึ่งเป็นคำถามที่กาย มอนทาก ไม่เคยถามกับตนเองเลย คำถามนี้คอยวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาจนเขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืนวันนั้น คลารีสเป็นเด็กสาวผู้ที่แอบครอบครองหนังสือ ซึ่งหลังจากที่กายได้รู้จักกับเธอ เขาก็มีทัศนติต่อหนังสือเปลี่ยนไป เขามองเห็นสิ่งที่รัฐคอยปกปิดมาโดยตลอดผ่านทางการบอกเล่าของหนังสือและวรรณกรรม เขาเริ่มอยู่ข้างเดียวกับคลารีสและต้องการจะเปลี่ยนแปลงสังคมที่ถูกบิดเบือนนี้ให้เป็นสังคมที่ประชาชนมีสิทธิที่จะได้รับรู้ความจริง เพราะรัฐปิดบังความจริงและจำกัดองค์ความรู้ของประชาชนเพราะกลัวเรื่องของความไม่สงบเรียบร้อย กลัวว่าจะเกิดการลุกฮือขึ้นของประชาชน เพราะวรรณกรรมช่วยให้ประชาชนสามารถตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาค และสิทธิที่มนุษย์ผู้มีอิสระเสรีคนหนึ่งพึงมี ซึ่งการที่ประชาชนมีเสรีภาพนี้นอกจากความเป็นเอกภาพที่ลดลงแล้ว ยังนำมาซึ่งการสูญเสียอำนาจของรัฐให้ลดลงไปอีกด้วย เราอ่านเรื่องนี้เป็นฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งขอบอกได้เลยว่า Ray Bradbury ใช้ภาษา ถ้อยคำที่สละสลวยสุด ๆ ตอนต้นเรื่องสนุก น่าอ่าน และชวนติดตามมาก ๆ แต่ตอนจบเราไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เพราะถึงแม้จะเป็นตอนจบแบบเปิดแต่สำหรับเรายังรู้สึกธรรมดาและไม่ทิ้งความประทับใจในตอนจบไว้ให้สักเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นหนังสือที่ดีและอยากให้คุณลองอ่านดูเช่นกัน
ในอนาคตที่ปราศจากการดูแลที่น่ากลัวชายหนุ่ม Guy Montag ซึ่งงานเป็นพนักงานดับเพลิงคือการเผาหนังสือทุกเล่มตั้งคําถามกับการกระทําของเขาหลังจากพบหญิงสาวและเริ่มกบฏต่อสังคม อ่านทั้งหมด
ในอนาคตที่กดขี่ 'พนักงานดับเพลิง' ที่มีหน้าที่ทําลายหนังสือทุกเล่มเริ่มตั้งคําถามกับงานของเขา
5.8
Without Remorse (2021) ลบรอยแค้น โดย ทอม แคลนซี ซับไทย
6.5
Paterno (2018) ซับไทย
6.1
Hotel Artemis (2018) โรงแรมโคตรมหาโจร
5.9
Reminiscence (2021)
6.4
The Giver (2014) พลังพลิกโลก
5.7
The Darkest Minds (2018) จิตทมิฬ
6.3
The Little Things (2021) ซับไทย
4.3
The Patrol (2013) หน่วยรบสงครามเลือด
5.3
A Tale Of Legendary Libido (2008)
6.2
Shanghai Knight (2022) ศึกอาชาเซี่ยงไฮ้
7.3
The Way Back (2010) แหกค่ายนรกหนีข้ามแผ่นดิน
8.2
The Sixth Sense ซิกส์เซ้นส์ สัมผัสสยอง
6.5
Never Back Down (2008) กระชากใจสู้แล้วคว้าใจเธอ
4.5
The Witch Files (2018)
6.6
Midnight Special (2016) เด็กชายพลังเหนือโลก
7.3
Stephen Curry Underrated (2023)
5.3
Hidden Strike (2023)
6.1
Miraculous Ladybug & Cat Noir The Movie (2023) ฮีโร่มหัศจรรย์ เลดี้บัก และ แคทนัวร์
5.9
Mazinger Z Infinity (2017) มาชินก้า Z อินฟินิตี้ สงครามหุ่นเหล็กพิฆาต